15 ธันวาคม 2552

ร่าง...ระเบียบรุ่นสิงห์สำอาง

ระเบียบของชมรมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์  ปี 2553

หมวด 1 ว่าด้วยชื่อ ที่ตั้ง และวัตถุประสงค์
ข้อ 1. ชมรมนี้ชื่อว่า “ชมรมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ รุ่น สิงห์สำอาง”
ข้อ 2. เครื่องหมายของชมรมฯ มีลักษณะเป็นโล่ห์โรงเรียนอำนวยศิลป์ มีอักษรคำว่า “นักเรียนเก่าอำนวยศิลป์” ด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ประกอบด้วยรูปสิงห์ 2 ตัว หันหน้าเข้าหากัน(มีอะไรก็สามารถปรึกษาหารือกันได้)  และยกโลห์ให้สูงขึ้น(เพื่อเชิดชูโรงเรียน) ภายในโลห์(อาร์ม)ประกอบด้วยหญ้าแพรกและดอกมะเขือ มีอักษรย่อว่า “อ.น.ศ.” 
ข้อ 3. วัตถุประสงค์ของชมรมฯ มีดังต่อไปนี้
     3.1 ส่งเสริมความสามัคคี
     3.2 เผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้
     3.3 อนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
     3.4 สนับสนุนและช่วยเหลือกิจกรรมของสมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์และโรงเรียนอำนวยศิลป์ให้เจริญก้าวหน้า
     3.5 ส่งเสริมศีลธรรม วัฒนธรรม บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์และการกุศล ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของชมรมฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
 
หมวด 2 ว่าด้วยสมาชิกภาพ
ข้อ 4. ผู้มีสิทธิ์จะเป็นสมาชิกของชมรมฯนี้ได้คือ
     4.1 สมาชิก คือผู้ที่เคยได้รับการศึกษาจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร นับได้ว่า จบ ม.ศ.3 ปี 2517 จบ ม.ศ.5 ปี 2519  ให้ถือว่า เป็นสมาชิกของชมรมฯ โดยสมบูรณ์
ข้อ 5. ผู้เป็นสมาชิกไม่ต้องชำระค่าลงทะเบียน ไม่ต้องชำระค่าบำรุงใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 6. สมาชิกทุกคนย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามระเบียบ และข้อบังคับชมรมฯ ซึ่งได้ตราไว้
ข้อ 7. สมาชิกไม่มีสิ้นสภาพ

หมวด 3 ว่าด้วยกรรมการจัดการชมรมฯ
ข้อ 8. ให้สมาชิกที่มาประชุมใหญ่เลือกตั้งกรรมการชมรมฯ ประกอบด้วย ประธาน 1 นาย และกรรมการอีก 10 นาย และให้ประธานแต่งตั้งกรรมการได้อีกไม่เกิน 10 นาย ให้ประธานแต่งตั้งกรรมการเป็นรองประธาน เลขาธิการ เหรัญญิก นายทะเบียน บรรณารักษ์ ปฏิคม ประชาสัมพันธ์ และตำแหน่งอื่นตามความเหมาะสม และกำหนดให้อดีตประธานทุกท่านเป็นที่ปรึกษาของชมรมฯ
ข้อ 9. ประธานหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
     9.1 ถึงคราวออกตามวาระ
     9.2 เมื่อยื่นหนังสือลาออกต่อเลขาธิการ
     9.3 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออก
ข้อ 10. ประธานดำรงตำแหน่งตามวาระ คราวละ 1 ปี แต่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานเกินกว่า 2 คราวติดต่อกันไม่ได้ ถ้าประธานพ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดตามวาระ ให้รองประธานรักษาการณ์แทนจนกว่าที่ประชุมใหญ่จะได้ทำการเลือกตั้งประธาน ขึ้นใหม่ และให้อยู่ในตำแหน่งได้เท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน ถ้ากรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดวาระ ให้กรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญขึ้นเป็นกรรมการแทน และให้อยู่ตำแหน่งได้เท่ากับกำหนดวาระของผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่มีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งประธานและกรรมการ ถ้าไม่อาจจัดให้มีการประชุมได้ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ ให้ประธานและกรรมการที่ดำรงตำแหน่งอยู่นั้นคงอยู่ต่อไปจนกว่าจะจัดให้มีการ ประชุมใหญ่ได้
ข้อ 11. คณะกรรมการเห็นสมควรจะตั้งสมาชิกเป็นอนุกรรมการ เพื่อดำเนินกิจการเฉพาะอย่างหนึ่งอย่างใด
เป็นส่วน ๆ ไป หรือจะเชิญสมาชิกหรือบุคคลผู้มีอุปการคุณคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้อุปถัมภ์
ชมรมฯ ก็ได้ คณะกรรมการจะเห็นสมควรแต่งตั้งบุคคลใดเป็นที่ปรึกษาชมรมฯ ก็ได้ตามแต่คณะกรรมการเห็นควร
 
หมวด 4 ว่าด้วยอำนาจหน้าที่กรรมการ
ข้อ 12. คณะกรรมการมีอำนาจที่จะจัดการแก้ไขกิจการ และออกคำสั่งวางระเบียบเพื่อความเจริญเรียบร้อย
ของชมรมฯ ได้เว้นแต่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของชมรมฯ จักต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่
ข้อ 13. ประธานชมรมฯ เป็นหัวหน้าของคณะกรรมการ มีหน้าที่บังคับบัญชาและจัดการงานทั้งปวง และเป็น
ผู้แทนของชมรมฯ ตามวัตถุประสงค์ เพื่อยังความเจริญให้บังเกิดแก่ชมรมฯ
อำนาจและหน้าที่ของกรรมการ
     13.1 รองประธาน มีหน้าที่ช่วยเหลือประธานในกิจการต่าง ๆ ทั่วไป และเป็นผู้แทน ถ้าประธานไม่อยู่หรือ
ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้
     13.2 เลขาธิการ มีหน้าที่ในการโต้ตอบเอกสาร รวบรวมรักษาหนังสือ หรือเอกสารรายงานกิจการของชมรมฯ
     13.3 นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำและรักษาทะเบียนสมาชิก
     13.4 เหรัญญิก มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินทั้งการรับ-จ่าย การทำบัญชี
     13.5 ปฏิคม มีหน้าที่ในการติดต่อรับรองให้ความสะดวกดูแลจัดการรักษาสถานที่และทรัพย์สินของชมรมฯ
     13.6 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจการของชมรมฯ
 
หมวด 5 ว่าด้วยการประชุม
ข้อ 14. การประชุมของคณะกรรมการ เป็นการประชุมสามัญเพื่อปรึกษาหารือกิจการหน้าที่ โดยเฉพาะต้องมีกรรมการ เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 9 นาย จึงจะนับเป็นองค์ประชุมได้  ในการประชุมของคณะกรรมการ ถ้าประธานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานเป็นประธานในที่ประชุมแทน และถ้ารองประธานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในการประชุมแทน
ข้อ 15. ให้คณะกรรมการประชุมปรึกษากิจการไม่น้อยกว่าปีละ 6 ครั้ง
การประชุมสมาชิกทั่วไป เป็นการประชุมใหญ่สามัญจัดขึ้นปีละครั้งภายในเดือนมีนาคม ของทุกปี ตามวันซึ่งคณะกรรมการจะได้กำหนด และแจ้งให้ทราบทั้งนี้เพื่อที่จะได้เสนอกิจการของชมรมฯ ให้สมาชิกทราบ ถ้าที่ประชุมคณะกรรมการเห็นสมควร หรือสมาชิก จำนวน 15 คนขึ้นไปร้องขอต่อประธานหรือเลขาธิการเป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียกประชุม วิสามัญเมื่อใด ก็ให้คณะกรรมการจัดการประชุมตามที่ร้องขอภายในกำหนด 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอนั้น การประชุมใหญ่วิสามัญให้ถือองค์ประชุมเช่นเดียวกับการประชุมใหญ่สามัญ
ข้อ 16. การเรียกประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญ ให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดให้สมาชิกได้มีเวลาทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
ข้อ 17. มติในที่ประชุมให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้ามีเสียงเสมอกันให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด
 
หมวด 6 ว่าด้วยการเงินและการบัญชี
ข้อ 18. กรรมการต้องจัดให้มีบัญชีแสดงรายการดังกล่าวต่อไปนี้ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง คือ
     18.1 จำนวนเงินที่ชมรมฯ ได้รับ การได้จ่าย ทั้งรายการอันเป็นเหตุให้รับหรือจ่ายเงินทุกรายไป
     18.2 ทรัพย์สินหรือหนี้สินของชมรมฯ
ข้อ 19. ให้ทำงบการเงินของชมรมฯ ปีละครั้งตามรอบปฏิทินและให้ผู้สอบบัญชีรับรอง แล้วนำเสนอ
ต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ข้อ 20. ผู้สอบบัญชีให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งทุกปี และผู้สอบบัญชีควรได้ค่าตอบแทนเท่าใด ให้เป็นหน้าที่
ของคณะกรรมการ
ข้อ 21. เงินของชมรมฯ นั้นต้องฝากไว้ที่ธนาคาร  ซึ่งที่ประชุมกรรมการเห็นสมควร เช็คของชมรมฯ ให้ประธาน  หรือรองประธาน และเหรัญญิก หรือผู้ช่วยเหรัญญิก เป็นผู้ลงชื่อสั่งจ่ายร่วมกัน   เหรัญญิกจะเก็บรักษาเงินสดไว้ได้ไม่เกิน 5,000.-บาท (ห้าพันบาทถ้วน)
 
หมวด 7 ว่าด้วยผู้ตรวจสอบการเงินชมรมฯ
ข้อ 22. ให้มีคณะกรรมการกลางมีอำนาจที่จะตรวจสอบการเงินของชมรมฯ ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ของชมรมฯ ในแต่ละครั้ง  ซึ่งคณะกรรมการกลางนี้ คัดเลือกมาจากสมาชิกชมรมฯ  ในภาคเหนือ  ภาคอีสาน   ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 4 ภาค ภาคละ 2  คน
 
หมวด 8 เบ็ดเตล็ด
ข้อ 23. ให้คณะกรรมการมีอำนาจที่จะออกระเบียบใด ๆ ขึ้นใช้บังคับแก่การบริหารกิจการชมรมฯ ได้แต่ต้องไม่ขัดกับข้อบังคับของชมรมฯ
ข้อ 24. ถ้าชมรมนี้ต้องเลิกล้มไปด้วยประการใด ๆ ทรัพย์สินของชมรมฯ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่อำนวยศิลป์มูลนิธิ หรือแก่สถาบันสาธารณกุศลอื่นใดตามที่ประชุมใหญ่จะเห็นสมควร
ข้อ 25. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ นับจากวันที่ได้แจ้งให้สมาชิกทุกท่านที่มาประชุมทราบ
ข้อ 26. การตีความหมายในข้อบังคับชมรมฯ หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่เป็นผู้พิจารณาและชี้ขาด


กฤต  คณาฤทธิ์  (อดีตประธานรุ่นฯ)
ผู้ทำข้อบังคับชมรมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ พุทธศักราช 2553

อ่านต่อ...